ลงทุน Global ETF ให้เงินงอกเงยได้ 127% ใน 10 ปี
อยากรู้หรือไม่ว่า การลงทุนแบบ Global ETF ทำให้พอร์ตลงทุนเพิ่มเงินเป็นเท่าตัว ได้อย่างไร
คอนเซปต์ของกองทุนส่วนบุคคล Global ETF คือ การลงทุนระยะยาว โดยจัดพอร์ตลงทุนผสมผสานระหว่างสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน เพื่อให้ผลตอบแทนที่ดี ในความเสี่ยงที่ยอมรับได้
เพราะลึกๆ แล้ว ‘นักลงทุน’ ไม่ชอบความเสี่ยง…
Global ETF นำทฤษฎีที่ได้รับรางวัลโนเบล อย่าง Modern Portfolio Theory (MPT) ของนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน Harry Markowitz มาเป็นไกด์ไลน์
MPT เป็นหลักการออกแบบพอร์ตลงทุน ตามผลตอบแทนที่คาดหวังและความเสี่ยงที่เหมาะสม ผ่าน 2 ตัวแปรสำคัญ คือ การจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) และการกระจายสินทรัพย์ (Asset Diversification)
สำหรับ Global ETF สร้างผลตอบแทนที่คาดหวัง ตามระดับความเสี่ยงต่ำ (4% ต่อปี) ปานกลาง (6% ต่อปี) และ สูง (8% ต่อปี)
การจัดสรรสินทรัพย์ คือ เลือก ETF (Exchange Traded Fund) ระดับโลกที่มีคุณภาพดี 5 กอง จาก iShares และ Vanguard ลงทุนในพันธบัตรกับหุ้นกู้ (เสี่ยงต่ำ) และหุ้นบริษัทจดทะเบียน (เสี่ยงสูง)
การกระจายสินทรัพย์ คือ แบ่งการลงทุนผ่าน ETF ทั้ง 5 กองในสัดส่วนที่แตกต่างกัน โดยมีโจทย์คือ ยังได้ผลตอบแทนคาดหวังและอยู่ความเสี่ยงที่เหมาะสม
Global ETF มี 3 แผนที่ให้คุณเลือก ได้แก่
พอเพียง 4% ต่อปี – ลงทุนพันธบัตรกับหุ้นกู้ 80% หุ้นสามัญ 20%
สมดุล 6% ต่อปี – ลงทุนพันธบัตรกับหุ้นกู้ 50% หุ้นสามัญ 50%
เติบโต 8% ต่อปี – ลงทุนพันธบัตรกับหุ้นกู้ 20% หุ้นสามัญ 80%

เมื่อคุณลงทุนในระยะเวลานานถึง 10 ปี แผน ‘เติบโต’ จะทำให้เงินลงทุนของคุณโตเกิน 100% ส่วนแผน ‘สมดุล’ เงินลงทุนเติบโตใกล้เคียง 100% ด้วยเช่นกัน
หมายความว่า มูลค่าพอร์ตลงทุนเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี จะมีเงินเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว
ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้ไม่มาก เลือกลงทุนในแผน ‘พอเพียง’ ในช่วง 10 ปี เงินก็ยังโตได้มากกว่า 50%
หมายความว่า ต่อให้เลือกลงทุนในความเสี่ยงที่ต่ำกว่า มูลค่าพอร์ตลงทุน เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี มีเงินเพิ่มขึ้นอีกครึ่งหนึ่ง
เมื่อลงลึกไปดูผลตอบแทนรายปี คุณจะเห็นว่า บางปีทุกแผนของ Global ETF ติดลบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอในโลกของการลงทุน ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่า…จะเกิดอะไรขึ้น
บางปีแผน ‘เติบโต’ ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าใคร ก็มีผลตอบแทนเป็นลบได้ เพราะตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงกว่า
แต่เทียบกับผลตอบแทนต่อปีจากการลงทุนยาวนาน 10 ปีกับผลตอบแทนต่อปีที่คาดหวัง จะเห็นได้ว่า…ใกล้เคียงกันตามหลักการ MPT ที่ Global ETF ออกแบบไว้
แน่นอนว่า…การลงทุนมีความเสี่ยง
ค่าความผันผวน ที่มาจากคำนวณส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) คือตัวชี้วัดว่า ผลตอบแทนจริงสามารถผิดไปจากผลตอบแทนคาดหวังได้ อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ 1-2 เท่าของค่าความผันผวน
ยกตัวอย่าง ผลตอบแทนคาดหวังของแผนพอเพียง 4% และค่าความผันผวน 4.35% แสดงว่าผลตอบแทนโดยทั่วไปอาจจะขยับขึ้นลงไม่เกิน 4.35-8.7% จากผลตอบแทนคาดหวัง
ส่วน Sharpe Ratio คือ สัดส่วนระหว่างผลตอบแทนต่อความผันผวน ยิ่งมีค่าสูงแสดงว่า มีโอกาสทำผลตอบแทนได้ดี มีความคุ้มค่ากับความเสี่ยงจากการลงทุน
อย่างไรก็ตาม Sharpe Ratio ไม่ได้ชี้วัดว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนจะสูงกว่า หากคุณมีเงินฝากประจำ ซึ่งแทบจะไม่มีความผันผวนเลย ได้ดอกเบี้ยทุกปี เงินต้นไม่หาย ค่า Sharpe Ratio สูง แต่ผลตอบแทนจริงน้อยมาก
ขณะที่ถ้าลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนสูง ค่า Sharpe Ratio น้อย แต่สามารถทำผลตอบแทนในมูลค่าที่สูงกว่าการฝากเงินในระยะยาว
ดังนั้น Global ETF จึงเป็นอีกทางเลือก สำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมายผลตอบแทนชัดเจน และสามารถเลือกลงทุนตามความเสี่ยงที่เหมาะกับตัวเองได้
เพียงเท่านี้ คุณสามารถ ‘ลงทุนสบายใจ กำไรยั่งยืน’ ได้เพิ่มเงินเป็นเท่าตัวใน 10 ปี ด้วยการลงทุน Global ETF
ลองเข้ามาหาคำตอบ จะเพิ่มเงินเป็นเท่าตัวใน 10 ปี ด้วย Global ETF อย่างไร ได้ที่ https://jittawealth.com/global-etf
กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็น WealthTech แห่งแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน